โปรแกรมภาษาซี
ขั้นตอนการสร้างโปรแกรมจากภาษาซี เขียนโปรแกรมต้นฉบับ (source program หรือ source code) และบันทึกโดยระบุส่วนขยายของไฟล์ เป็น .c เช่น pro1.c แปลโปรแกรมต้นฉบับเป็นโปรแกรมภาษาเครื่อง(object program) ซึ่งมีส่วนขยายเป็น .obj เช่น pro1.obj ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของ compiler เชื่อมโยงฟังก์ชัน(library function)ในห้องสมุดของฟังก์ชันที่โปรแกรมที่สร้างมีการเรียกใช้เข้ากับโปรแกรมภาษาเครื่อง ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของ linker จะได้โปรแกรม(execute program) ที่สามารถทำงานได้ตามลำพัง ได้เป็นไฟล์ที่มีส่วนขยายเป็น .EXE เช่น pro1.exe ให้โปรแกรม execute program ที่ได้ทำงาน(run)โดยการป้อนชื่อโปรแกรมนั้น เช่น pro1.exe
โครงสร้างของโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา C โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา C จะมีโครงสร้าง อย่างง่าย ดังนี้ #include หรือ header file ส่วนประกาศ หรือ declaration part ส่วนนี้ใช้ประกาศตัวแปร ค่าคงที่ ชนิดของข้อมูล แบบ global main() ฟังก์ชันหลักของโปรแกรม { คำสั่งต่าง ๆ ค่าคงที่ ฯลฯ } ฟังก์ชันย่อย (sub function) { คำสั่งต่าง ๆ ค่าคงที่ ฯลฯ } ไฟล์ส่วนหัว(header file) ประกอบด้วย #include ซึ่งจัดเป็น preprocessor directives เมื่อคอมไพล์โปรแกรม compiler ยังไม่ต้องการ source code แต่จะเรียก preprocessor เพื่อตรวจสอบ source ว่ามีการเรียกใช้ฟังก์ชันใดบ้างมีอยู่ในheader file ที่เรียกใช้หรือไม่ header file จะมีส่วนขยายเป็น .h จะเป็นที่เก็บรวบรวมฟังก์ชันใน library โดยที่แต่ละ header file จะจัดเก็บฟังก์ชันต่าง ๆ ไว้ แตกต่างกันไป เช่น stdiol.h จะเกี่ยวฟังก์ชันต่าง ๆที่เกี่ยวกับ I/O ต่าง ๆ โดย preprocessor directives จะเริ่มต้นด้วย # และไม่ต้องจบด้วย เครื่องหมาย ; เพราะไม่ใช่คำสั่งหรือฟังก์ชัน โดย directive มีหลายตัว เช่น include , define โดยการเขียนโปรแกรมบางครั้งอาจต้องเรียกใช้ header file หลายไฟล์เพราะมีการเรียกใช้ฟังก์ชันที่อยู่ใน library ที่เก็บไว้โดย header file ต่างกัน Declaration part เป็นส่วนที่ใช้ในการประกาศ ชนิด ค่าของตัวแปร ค่าคงที่ ที่เป็นแบบ global เพราะถูกเรียกไปใช้ได้ในทุก ๆ ฟังก์ชัน ของโปรแกรม ในส่วนนี้ยังเป็นที่ใช้ประกาศว่ามีฟังก์ชันย่อยใดบ้างในโปรแกรม main() เป็นฟังก์ชันหลักของโปรแกรม ซึ่งต้องมีอย่างน้อย 1 ฟังก์ชัน การทำงานของฟังก์ชันนี้นอกจากใช้คำสั่งต่าง ๆ ใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ จาก library แล้วยังสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันย่อย ๆ ต่าง ๆ ได้ ฟังก์ชันย่อย (sub function) เป็นฟังก์ชันที่มีการสร้างขึ้นเพื่อให้โปรแกรมเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานได้ตามต้องการ
สิ่งควรรู้เป็นเบื้องต้นของภาษา C 1. ฟังก์ชัน main() จะไม่ส่งค่าให้ฟังกชันอื่น ๆ และไม่ต้องรับค่า จึงอาจเขียนว่า void main(void) โดย void หมายความว่าไม่ส่งค่ากลับไป ส่วน(void) หมายความว่าไม่มีอาร์กูเมนต์(argument) คือไม่ต้องรับค่า 2. ขอบเขตของฟังก์ชัน จะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย { และสิ้นสุดขอบเขตด้วยเครื่องหมาย } นั่นคือจะเขียนฟังก์ชันใดต้องเริ่มต้นด้วย { และจบด้วย } ทำนองเดียวกันกับเมื่อนำคำสั่งหลาย ๆ คำสั่งมาประกอบกันเป็นชุดเดียวกันก็จะเริ่มด้วย { และจบด้วย } เช่นเดียวกัน 3. คำสั่งแต่ละคำสั่งจะต้องจบด้วยเครื่องหมาย ; (semicolon) 4. ชื่อฟังก์ชันและคำสั่งต่าง ๆ ในภาษาซีจะต้องใช้ตัวอักษรตัวเล็ก (lowercase) ชื่อตัวแปรจะใช้ตัวอักษรตัวเล็กหรือตัวอักษรตัวใหญ่(uppercase) ก็ได้และภาษา C จะถือว่าตัวอักษรตัวเล็กตัวใหญ่ต่างกัน (case sensitive) ตัวแปรในฟังก์ชันต่างกันอาจชื่อเหมือนกันได้แต่ในฟังก์ชันเดียวกันจะมีตัวแปรชื่อเหมือนกันไม่ได้
. . . . .
|